การควบคุมประชาชนและทรัพยากร
การปฏิบัติการควบคุมประชาชนและทรัพยากร จัดอยู่ประเภทของการปฏิบัติการแบบตำรวจ ซึ่งไม่ใช่การปฏิบัติการทางยุทธวิธี
ง – ๑๓ การป้องกันประชาชน
การควบคุมประชาชนและทรัพยากรเป็นการปฏิบัติของรัฐบาล เพื่อป้องกันประชาชนและทรัพย์สิน อีกทั้งเป็นการปฏิเสธการใช้ทรัพยากรเหล่านั้นโดยพวกก่อความไม่สงบ เพื่อต่อต้านรัฐบาล วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติการควบคุมประชาชนและทรัพยากร ก็คือ การช่วยเหลือรักษาสถานะการบังคับใช้ และการจัดตั้งกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่ใช้ภายในพื้นที่ หรือภายในประเทศ กิจหลัก ๔ ประการดังต่อไปนี้ จะช่วยทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว
ก. จัดให้มีการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน
ข. การสืบค้น และการทำให้เครื่องมือของฝ่ายก่อความไม่สงบใช้การไม่ได้
ค. ทำลายสัมพันธภาพระหว่างฝ่ายก่อความไม่สงบและประชาชน
ง. มาตรการที่นำมาใช้ จะต้องมีผลกระทบต่อความสำเร็จตามวัตถุประสงค์น้อยที่สุด จะต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการเหล่านั้น นอกจากนี้จะต้องยกเลิกการใช้มาตรการดังกล่าวโดยเร็วที่สุดทันทีที่สถานการณ์ได้คลี่คลาย
ง – ๑๔ กำลังปฏิบัติการที่มีอยู่
มีกำลังอยู่ ๓ ประเภท ที่สามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติการควบคุมประชาชน และทรัพยากรได้ คือ.-
• ตำรวจเป็นแนวตั้งรับแนวแรกในการต่อสู้กับพวกก่อความไม่สงบ
• กำลังกึ่งทหารอาจเข้าเพิ่มเติม หรือช่วยเหลือตำรวจ
• กำลังทหารของประเทศนั้นควรจะใช้ก็ต่อเมื่อตำรวจและกำลังกึ่งทหารไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ และการปฏิบัติของพวกก่อความไม่สงบได้
ก. การควบคุมประชาชนและทรัพยากร ควรจะดำเนินการโดยหน่วยงานของประเทศเจ้าบ้าน นี่คือสาระสำคัญแห่งความสำเร็จ แต่ก็ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมายหรือการดำเนินการทางจิตวิทยาควบคู่ไปด้วย กำลังทหารของสหรัฐ ฯ ควรจะนำมาใช้ในหนทางเลือกสุดท้ายและเป็นเพียงส่วนช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับหน่วยทหารของประเทศเจ้าบ้านเท่านั้น หน่วยทหารสารวัตรควรจะถูกนำมาใช้ก่อนหน่วยกำลังรบ
ข. มาตรการควบคุมประชาชนและทรัพยากร สามารถจัดแบ่งออกเป็น ๓ ประเภท
(๑) การเฝ้าตรวจบุคคล, กลุ่มบุคคล, การปฏิบัติการ หรือสถานที่โดยวิธีการทางลับและเปิดเผย
(๒) มาตรการจำกัด เช่น การจำกัดเวลาออกนอกบ้าน (เคอร์ฟิวส์), ใบอนุญาตเดินทาง, การอนุญาตให้ครอบครองอาวุธปืน, การจัดทำทะเบียนราษฎร์ และการทำบัตรประชาชน การควบคุมอาหารบางชนิด, การควบคุมสิ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยุทโธปกรณ์อื่น ๆ
(๓) การใช้มาตรการควบคุมผ่านทางจุดปิดกั้นถนน, จุดตรวจ, การใช้รางวัลตอบแทน, โครงการนิรโทษกรรม และการเลือกตรวจตามบ้านในยามค่ำคืน
ค. มาตรการควบคุมเหล่านี้ จะต้องมีการวางแผนการใช้ และการประสานงานเป็นอย่างดี เพื่อประกันความมั่นใจว่าการปฏิบัติการจะเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ, โดยส่งผลกระทบน้อยที่สุดที่จะทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกหรือชักช้า การควบคุมประชาชนและทรัพยากรจะช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติการอื่น ๆ ในการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบและการปรับปรุงสภาพแวดล้อมซึ่งดำเนินการโดยกำลังทหาร นอกจากนี้ยังช่วยทำให้เกิดความมั่นคงภายในภาพรวมของประเทศในพื้นที่ปฏิบัติการ
ง – ๑๕ ศูนย์กลางแห่งสาระสำคัญ
ศูนย์กลางแห่งสาระสำคัญของการควบคุมประชาชนและทรัพยากร ก็คือ ประชาชน
ก. การปฏิบัติการจิตวิทยา ควรจะเป็นตัวชี้นำไปสู่สาระสำคัญนี้ และจะถูกออกแบบเพื่อให้บรรลุความสำเร็จในเรื่องดังต่อไปนี้.-
(๑) เพื่อชักจูงให้ประชาชนยอมรับในมาตรการที่จำเป็นก่อนการประกาศใช้
(๒) เพื่อทำให้ประชาชนยอมรับ และตระหนักว่าการให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จะช่วยลดข้อจำกัดและความบีบบังคับของมาตรการ
(๓) เพื่อชี้ชัดความผิดพลาดของพวกก่อความไม่สงบที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดความไม่สะดวกสบาย และข้อขัดข้องต่าง ๆ
ข. จะต้องใช้การปฏิบัติการตามแนวชายแดน (เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมประชาชนและทรัพยากร) เพื่อตัดขาดพวกก่อความไม่สงบออกจากการสนับสนุนภายนอก ซึ่งมีได้หลายลักษณะ ตั้งแต่การให้การสนับสนุนในด้านหลักการ และการฝึกเป็นบุคคลให้กับพวกก่อความไม่สงบด้วยการใช้กำลังจากภายนอก เพื่อให้มีขีดความสามารถในการต่อต้านด้วยกำลังรบ
ค. ปฏิบัติการควบคุมประชาชนและทรัพยากรที่หน่วยทหารสหรัฐ ฯ มีโอกาสเข้าร่วมด้วย ได้แก่.-
• การปฏิบัติการตามแนวชายแดน
• การปิดล้อมและตรวจค้น
• การเสริมปฏิบัติการในลักษณะต่าง ๆ (การปิดกั้นถนน, จุดตรวจ)
ตอนที่ ๕
การให้ความช่วยเหลือด้านคำแนะนำ
การให้ความช่วยเหลือด้านคำแนะนำเป็นการช่วยเหลือบุคลากรของกองทัพสหรัฐ ฯ ที่ให้กับกำลังรบนอกแบบ, กำลังกึ่งทหาร และกำลังรบตามแบบของประเทศเจ้าบ้าน นอกจากนี้ยังอาจหมายรวมถึงการให้ความช่วยเหลือแนะนำหน่วยงานพลเรือน เพื่อให้มีประสิทธภาพในการปฏิบัติภารกิจของตนมากยิ่งขึ้น
ง – ๑๖ การให้ความช่วยเหลือทางด้านยุทธวิธี
การปฏิบัติกิจกรรมในข้อนี้ คือ การให้การสนับสนุนในทางอ้อมและทางตรงด้วยการปฏิบัติการทางยุทธวิธี, การข่าวกรอง, การปฏิบัติการจิตวิทยา, การปฏิบัติการควบคุมประชาชนและทรัพยากร และการช่วยเหลือประชาชนโดยทหาร การช่วยเหลือดังกล่าวจะถูกกำหนดขึ้นเพื่อ.-
ก. จัดดำเนินการช่วยเหลือโดยเชื่อมต่อกองทัพเรือ และกองทัพอากาศมายังประเทศเจ้าบ้าน
ข. เข้าร่วมในการฝึกอบรมและฝึกร่วมในเรื่องการรักษาความมั่นคงภายในตามข้อตกลงร่วมกัน
ค. จัดชุดครูฝึกเคลื่อนที่, ชุดสนับสนุนด้านการช่วยรบ และชุดสนับสนุนการรบ เพื่อให้คำแนะนำ, ฝึก, ช่วยเหลือ และสนับสนุนกำลังทหารของประเทศเจ้าบ้าน
ง – ๑๗ การช่วยเหลือของกองทัพบก
วัตถุประสงค์หลักในการช่วยเหลือโดยกองทัพบกสหรัฐ ฯ ก็คือ การเพิ่มขีดความสามารถทางทหารให้กับกองทัพของประเทศเจ้าบ้าน
ก. หน่วยระดับกรมอาจจำเป็นต้องเข้าดำเนินการจัด, ฝึก, ติดอาวุธและให้คำแนะนำแก่บุคลากรทั้งทางพลเรือนและทางทหาร ตลอดจนหน่วยเพื่อเข้าปฏิบัติภารกิจการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ กิจเหล่านี้ประกอบด้วย
(๑) การจัดหน่วย, การจัดยุทโธปกรณ์, การฝึก และการให้คำแนะนำแก่กำลังกึ่งทหารและกำลังรบนอกแบบ (ที่ได้รับกำลังมาจากคนในท้องถิ่น) เพื่อรับภารกิจการป้องกันท้องถิ่นจากหน่วยระดับกรม
(๒) การจัดยุทโธปกรณ์, การฝึกและการให้คำแนะนำแก่กำลังรบตามแบบของกองทัพประเทศเจ้าบ้าน ในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ที่จัดหาโดยโครงการช่วยเหลือทางทหาร MAPs และโครงการ FMS.
(๓) การจัดหน่วย, การจัดยุทโธปกรณ์, การฝึก และการให้คำแนะนำแก่องค์กรตำรวจของประเทศเจ้าบ้าน
(๔) การให้คำแนะนำแก่กำลังรบตามแบบของกองทัพประเทศเจ้าบ้าน, กำลังกึ่งทหาร และรัฐบาลของประเทศในเรื่อง การรักษาความมั่นคง การป้องกัน และการพัฒนาภายในประเทศ
ข. การให้ความช่วยเหลือด้านคำแนะนำของหน่วยระดับกรมที่มีต่อบุคลากรและหน่วยของประเทศเจ้าบ้าน จะมีความแตกต่างจากการช่วยเหลือประชาชนโดยทหาร เป็นการปฏิบัติเพื่อช่วยขยายขอบเขตของกิจกรรมในทางลับ ได้แก่ การจัดหน่วย, การจัดยุทโธปกรณ์, การฝึก และการให้คำแนะนำแก่กำลังรบ ซึ่งน่าจะสำเร็จลุล่วงขณะที่อยู่ในพื้นที่ของฐานที่ตั้งกองกำลัง หรืออาจจะสำเร็จลงในระหว่างขั้นตอนของการตั้งรับในการเสริมความมั่นคงของการปฏิบัติการทางยุทธวิธีเพื่อป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ
ค. หากการจัดของชุดให้คำแนะนำทางทหารของสหรัฐ ฯ มีลักษณะเป็นชุดปฏิบัติการแล้ว กำลังพลในชุดก็จะเป็นผู้ให้คำแนะนำเป็นวัตถุประสงค์หลัก แต่อย่างไรก็ตามหากชุดให้คำแนะนำหรือชุดครูฝึกเคลื่อนที่ไม่สามารถจัดขึ้นมาเพื่อปฏิบัติงานนี้ได้, หน่วยระดับกรมก็อาจจำเป็นต้องเข้ารับปฏิบัติภารกิจนี้แทน การช่วยเหลือให้คำแนะนำจะต้องได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับแผนงานด้านการรักษาความมั่นคง และการพัฒนาภายใน ผ่านทางศูนย์การประสานงานประจำพื้นที่
ง – ๑๗ การจัดของหน่วยระดับกรม
การจัดของหน่วยระดับกรมทั้งหมดจะต้องมีการจัดเตรียมบุคลากร และทีมงานซึ่งมีขีดความสามารถในการช่วยเหลือด้านการให้คำแนะนำ (สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมให้ศึกษาจาก รส.๑๐๐ - ๕ และ รส.๑๐๐ - ๒๐)
ก. การจัดของหน่วยงานช่วยเหลือให้คำแนะนำ อาจจำเป็นต้องมีการออกแบบการจัดชุดเฉพาะกิจเพื่อปฏิบัติกิจพิเศษบางอย่างให้ลุล่วง
(๑) หน่วยทหารสารวัตร เพิ่มเติมด้วยกำลังบางส่วนของกรม อาจจำเป็นต้องเข้าทำการฝึกหน่วยทหารสารวัตรของประเทศเจ้าบ้านที่อยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ชุดรบผสมเหล่าอาจจำเป็นต้องเข้าทำการฝึกยุทธวิธีและเทคนิค การปฏิบัติให้กับหน่วยทหารยานเกราะ และหน่วยทหารปืนใหญ่ของประเทศเจ้าบ้านในท้องถิ่นนั้น ๆ
(๒) ศูนย์ฝึกอาจถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อมีความจำเป็น และมีงานการฝึกที่มากพอเพียง
(๓) ชุดครูฝึกจากหน่วยระดับกรม อาจถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ฝึกเจ้าหน้าที่พิเศษเฉพาะด้านของประเทศเจ้าบ้าน เจ้าหน้าที่พิเศษดังกล่าวจะถูกฝึกเพื่อการใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษ ซึ่งมีบรรจุอยู่ในอัตราการจัดของกรม และจะถูกส่งมาให้กับกำลังรบของประเทศเจ้าบ้านในโอกาสต่อไป
(๔) ชุดครูฝึกเคลื่อนที่ที่จัดขึ้นโดยหน่วยระดับกรม อาจถูกส่งไปเพื่อช่วยฝึกหน่วยทหารของประเทศเจ้าบ้านในศูนย์ฝึก หรือฐานที่ตั้งของประเทศนั้น ๆ
ข. การปฏิบัติการช่วยเหลือให้คำแนะนำจำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษในการแนะนำ ดังนั้น ยุทธวิธี, การไตร่ตรองอย่างรอบคอบ, ความสุขุม, คุณวุฒิในการใช้ภาษา, ความเชี่ยวชาญในวิชาการ และคุณวุฒิในด้านอื่น ๆ จะต้องถูกนำมาเน้นย้ำเป็นพิเศษ
ค. ข้อพิจารณาหลักในการจัดชุดที่ปรึกษาให้คำแนะนำ ก็คือชั้นยศทางทหารของหัวหน้าชุด ทั้งนี้เนื่องจากในหลายประเทศถือเป็นการไม่เหมาะสมที่จะให้ผู้มีอาวุโสชั้นยศน้อยกว่าเป็นผู้ให้คำแนะนำกับหน่วยหรือบุคคลที่มีชั้นยศสูงกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ลักษณะนี้ ผู้บังคับหน่วยอาจจำเป็นต้องแต่งตั้งยศให้กับนายสิบที่ปฏิบัติหน้าที่ในชุดที่ปรึกษาให้คำแนะนำ เพื่อให้เกิดการยอมรับและความประทับใจแก่หน่วยที่รับคำแนะนำและการช่วยเหลือนั้น
ผนวก จ
การปฏิบัติการผสม
เมื่อเคลื่อนย้ายกำลังทหารของสหรัฐ ฯ เข้าไปในประเทศที่เกิดวิกฤตการณ์, การปฏิบัติการทางยุทธวิธีมักจะเป็นไปในลักษณะการปฏิบัติการร่วมกันโดยธรรมชาติ กำลังทหารของสหรัฐ ฯ มักจะร่วมปฏิบัติงานหรือให้การสนับสนุนกำลังรบตามแบบและกำลังกึ่งทหารของประเทศเจ้าบ้าน
จ – ๑ ลักษณะของการปฏิบัติการผสม
การปฏิบัติการผสมจำเป็นต้องมีการจัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับความรับผิดชอบ, ขอบเขตอำนาจทางกฎหมาย และการจัดทำระเบียบปฏิบัติ ตลอดจนข้อพิจารณาในการจัดหน่วย พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการปฏิบัติการผสม มักจะเป็นสนธิสัญญา หรือข้อตกลงทางยุทธการ ระหว่าง สหรัฐ ฯ และประเทศเจ้าบ้าน
ก. กองกำลังของสหรัฐ ฯ จะต้องวางแผนเพื่อประสานงานและปฏิบัติงานร่วมกับกำลังรบตามแบบและกำลังกึ่งทหาร ผู้บังคับหน่วยและฝ่ายอำนวยการจะต้องเตรียมพร้อมที่จะจัดทำข้อตกลงที่เป็นไปได้ และใช้การได้อย่างรวดเร็ว เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในประเทศเจ้าบ้าน โดยไม่ได้จัดทำเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า สถานการณ์ทุกสถานการณ์จะมีลักษณะเฉพาะ และขึ้นอยู่กับการเข้าร่วมปฏิบัติการของกำลังทหารสหรัฐ ฯ ตลอดจนลักษณะธรรมชาติของการปฏิบัติการ
ข. การวางแผนสำหรับปัจจัยต่าง ๆ ที่จะต้องนำมาพิจารณาจะช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติการผสม ข้อพิจารณาหลัก ได้แก่.-
• การบังคับบัญชาและการควบคุม
• การข่าวกรอง
• ระเบียบปฏิบัติทางยุทธการ
• การสนับสนุนทางการช่วยรบ
จ – ๒ การบังคับบัญชาและการควบคุม
กองกำลังทหารสหรัฐ ฯ จัดตั้งดังต่อไปนี้.-
ก. การจัดหน่วยของกองกำลังผสม
ข. การบังคับบัญชาทั้งหมดของกองกำลัง
ค. บทบาทและภารกิจของกองกำลังผสม
ง. ระเบียบปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนนายทหารติดต่อ พร้อมกับขีดความสามารถในด้านภาษา หรือการสนับสนุนล่าม และการดำเนินการพิจารณาระดับการแลกเปลี่ยน
จ. ความเข้าใจในความแตกต่าง, ขีดความสามารถและบุคลิกลักษณะของบุคลากรระดับผู้นำหน่วยของประเทศเจ้าบ้าน
จ – ๓ การข่าวกรอง
กองกำลังทหารสหรัฐ ฯ จัดตั้งระเบียบปฏิบัติสำหรับ.-
ก. การกระจายข่าวกรองทางทหาร และการใช้ข่าวกรองของหน่วยที่เข้าร่วมปฏิบัติการ
ข. การประสานการปฏิบัติด้านการข่าวกรอง
ค. การแบ่งเฉลี่ยขีดความสามารถทางเทคโนโลยีชั้นสูงในเรื่องการข่าวกรอง
จ – ๔ ระเบียบปฏิบัติทางยุทธการ
กองกำลังทหารสหรัฐ ฯ จะจัดทำแผนและระเบียบปฏิบัติสำหรับ.-
ก. รปจ. ซึ่งประกันความมั่นใจในการประสานการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ
ข. การมอบหมายความรับผิดชอบที่แน่นอนทางด้านยุทธการโดยขึ้นอยู่กับขีดความสามารถพิเศษของกองกำลัง
ค. การพิจารณาในความแตกต่างทางด้านยุทธวิธี, เทคนิค และระเบียบปฏิบัติ
ง. การพิจารณาความแตกต่างในด้านยุทโธปกรณ์, วิทยุ และแผนที่
จ. การวางแผนในรายละเอียดและการซักซ้อม
ฉ. การพิจารณาดำเนินการระบุ และพิสูจน์ฝ่ายหน่วยทหารพันธมิตร
ช. การประสานการปฏิบัติในพื้นที่ส่วนหลัง, การวางแผนและความรับผิดชอบ
ซ. การใช้เครื่องมือสนับสนุนการรบ
จ – ๕ การสนับสนุนทางการช่วยรบ
กองกำลังทหารสหรัฐ ฯ จัดทำแผนสำหรับ.-
ก. การแลกเปลี่ยนนายทหารติดต่อ
ข. การสนับสนุนการประสานงานจากแหล่งทรัพยากร และสิ่งอำนวยความสะดวกในท้องถิ่น
ค. การพิจารณาดำเนินการเรื่องอาวุธและกระสุนที่ใช้ร่วมกันได้
ง. การสนับสนุนทางด้านยุทธวิธีในกรณีฉุกเฉิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น