เรื่องลำดับขั้นตอนของงานในการตั้งรับ ตามที่กำหนดไว้ใน รปจ. ของหมวด
๒ - ๑๕ การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ
ลำดับขั้นตอนมาตรฐานของหมวดปืนเล็กในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ ประกอบด้วย การวางแผน การตกลงใจ และการปฏิบัติ โดยยึดถือเอาตามการตกลงใจในขั้นการปฏิบัติที่สำคัญ ๆ ของผู้บังคับหมวดเป็นหลัก ลำดับขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานดังกล่าว ได้แก่
- การเตรียมกำลังเข้าทำการรบ
- การเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ตั้งรับ
- การสถาปนาพื้นที่ตั้งรับ
- การค้นหาข้าศึก
- การเริ่มต้นปะทะหรือตอบโต้การปะทะกับข้าศึก
- ดำเนินการตั้งรับ
- การจัดระเบียบใหม่
ก. การเตรียมกำลังเข้าทำการรบ ผู้บังคับหมวดได้รับคำสั่งเตือน หรือคำสั่งยุทธการจากผู้บังคับกองร้อย แล้วปฏิบัติดังนี้
๑) รีบออกคำสั่งเตือน
๒) ผู้บังคับหมวดเริ่มวางแผนขั้นต้น โดยการประมาณสถานการณ์ และการวิเคราะห์ปัจจัย METT – T
๓) หากสามารถทำได้ ผู้บังคับหมวด (และผู้บังคับหมู่ ) ทำการลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศพื้นที่ตั้งรับและเส้นทางไปยังพื้นที่ตั้งรับ การลาดตระเวนดังกล่าวต้องมีชุดระวังป้องกันอย่างน้อยที่สุดสองคน การตรวจภูมิประเทศของผู้บังคับหมวด จะต้อง
ก) ดำรงการระวังป้องกันตลอดเวลา
ข) ตรวจสอบว่ามีที่ตั้งข้าศึก หรือร่องรอยการปฏิบัติของข้าศึกที่ผ่านมา เครื่องกีดขวาง กับระเบิดแสวงเครื่อง หรือมีพื้นที่เปื้อนพิษ นชค. หรือไม่
ค) ตกลงใจหรือปรับแก้ที่ตั้งและเขตการยิงของหมู่ ตามที่กำหนดไว้แล้วในแผนขั้นต้น (โดยปกติผู้บังคับหมวดจะกำหนดและปรับแก้ที่ตั้งยิงปืนกล และอาวุธต่อสู้รถถังด้วย ) ผู้บังคับหมวดอาจปรับแก้แผนของตนตามความจำเป็น ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และประเมินค่าปัจจัย METT – T เพิ่มเติม
ง) หลังจากชุดลาดตระเวนของหมวดกลับมาแล้ว ผู้บังคับหมวดจะจัดตั้งชุดเฝ้าตรวจและนำทางวางไว้ตามแนวเส้นทางเคลื่อนที่ เพื่อให้การระวังป้องกันและนำทางในการเคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่ตั้งรับของหมวด
๔) จากผลการลาดตระเวน และข่าวสารอื่น ๆ ที่ได้รับเพิ่มเติม ผู้บังคับหมวดจะทำแผนสมบูรณ์ และออกคำสั่งแก่หน่วยรองต่อไป
๕) ผู้บังคับหมู่ทุกคนตรวจ (รองผู้บังคับหมวดสุ่มตรวจ) อาวุธ เครื่องมือสื่อสาร และชิ้นส่วนประกอบต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่า มีครบและใช้การได้ทั้งเป็นบุคคลและเป็นหน่วย
๖) รองผู้บังคับหมวดตรวจสอบ สป.๕ สป.๑ น้ำ และ สป.สายแพทย์ที่มีอยู่ และที่ผู้บังคับหมวดกำหนดให้มี (หมวด และหมู่ปืนเล็กควรวางแผน เบิก – รับ สป.๕ อีก ๑ อัตรามูลฐาน สำหรับวางไว้บนแนวตั้งรับด้วย)
๗) ทหารทุกคนทำการพรางตนเอง และอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กลมกลืนกับภูมิประเทศ
๘) หมวดทำการซักซ้อมการปฏิบัติ โดยซักซ้อมกิจสำคัญ ( critical tasks ) ก่อนเป็นลำดับแรก
ก) ผู้บังคับหมวดทำการตรวจขั้นสุดท้ายต่ออาวุธ (ทดสอบการยิงหากทำได้) ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ (รวมทั้งตรวจสอบระบบการติดต่อสื่อสาร ) และตรวจเป็นบุคคล (รวมทั้งตรวจการพราง) รองผู้บังคับหมวดกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดในเรื่อง แผนการบรรทุกเป็นบุคคลของทหาร เพื่อให้มั่นใจว่าทหารแต่ละคนมีสิ่งของที่จำเป็นตามที่กำหนดไว้ใน รปจ. และไม่มากจนเกินความจำเป็น
ข) หากมีการจัดส่วนล่วงหน้า ผู้บังคับหมวด รองผู้บังคับหมวด และ ผบ.ส่วนล่วงหน้า (ตามปกติจะเป็นผู้บังคับหมู่ปืนเล็กคนใดคนหนึ่ง) ทำการตรวจการปฏิบัติของส่วนล่วงหน้าและแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็น (เช่น ขาทราย และหลักเขตการยิง เป็นต้น ) (ดูบทที่ ๕)
๙) หากไม่อยู่ระหว่างเคลื่อนที่ ผู้บังคับหมวดจะเป็นผู้ริเริ่มการเคลื่อนย้ายที่จำเป็นของหมวด
ข. การเคลื่อนที่ไปยังที่มั่นตั้งรับ ใช้หลักพื้นฐานของการเคลื่อนย้ายดังนี้
๑) ใช้เส้นทางที่มีการกำบังและซ่อนพราง
๒) หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อาจถูกซุ่มโจมตี
๓) เน้นวินัยการพราง การใช้เสียง และแสง
๔) ดำรงการระวังป้องกันรอบตัว รวมทั้งยามเฝ้าตรวจทางอากาศ
๕) ใช้รูปขบวนและเทคนิคการเคลื่อนที่ตามปัจจัย METT – T
ค. สถาปนาที่มั่นตั้งรับ หมวดปืนเล็กหยุดการเคลื่อนที่ก่อนถึงที่มั่นตั้งรับเล็กน้อย โดยใช้ภูมิประเทศที่ให้การกำบังและซ่อนพราง หลังจากนั้นจัดตั้งชุดระวังป้องกันเฉพาะบริเวณบนแนวที่มั่น
๑) ผู้บังคับหมวดและผู้บังคับหมู่ พร้อมด้วยชุดระวังป้องกัน (อย่างน้อย ๒ คน) เคลื่อนที่ไปยังชุดระวังป้องกันเฉพาะบริเวณบนแนวที่มั่น
- ผู้บังคับหมู่กลับมายังที่ตั้งหมวด แล้วนำกำลังแต่ละหมู่ปืนเล็กขึ้นไปยังแนวที่มั่นตั้งรับ
ข) หมวดปืนเล็กเริ่มยึดครองที่มั่นตั้งรับที่กำหนด ชุดเฝ้าตรวจและนำทางนำกำลังของหมวดเข้าสู่ที่มั่น
๒) เมื่อวางกำลังในที่มั่นตั้งรับแล้ว ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กำกับดูแลให้หน่วยปฏิบัติตามลำดับความเร่งด่วนของงานที่กำหนด นอกจากนั้นแล้วผู้บังคับหมวดควรปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้
- เดินออกไปหน้าแนวถ้าทำได้ แล้วมองย้อนกลับมายังแนวที่มั่นเพื่อตรวจสอบการพราง และพื้นที่อับกระสุน สิ่งสำคัญที่สุดของที่มั่นรบทหารราบคือ จะต้องไม่ถูกตรวจพบก่อนเวลาอันควร
- ตรวจการสร้างลวดหนามและสนามทุ่นระเบิด ให้แน่ใจได้ว่าแนวลวดหนามป้องกันตนอยู่ห่างจากแนวที่มั่นพ้นระยะขว้างลูกระเบิด และแนวลวดหนามยุทธวิธีวางถัดจากแนวยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้ายเข้ามาทางแนวที่มั่นฝ่ายเรา
- ชี้แจงเพิ่มเติมแก่รองผู้บังคับหมวดเรื่องแผนการส่งกำลังบำรุง (รวมทั้งการส่งกำลัง สป.เพิ่มเติม และเส้นทางการส่งกลับผู้ป่วยเจ็บ )
- ออกคำสั่งสุดท้ายของหมวด (กรณีที่มีการแก้ไข ) และตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจของทหาร (ทหารทุกคนต้องทราบหน่วยทหารฝ่ายเดียวกันที่อยู่ด้านหน้าที่มั่นตั้งรับ เช่น หน่วยลาดตระเวน เฝ้าตรวจต่าง ๆ ) และเส้นทางที่หน่วยเหล่านั้นจะเคลื่อนที่กลับมา รวมทั้งต้องทราบสัญญาณและเงื่อนไขต่าง ๆ ในการเริ่มยิง ย้ายการยิง ยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย และหยุดยิง การเข้าประจำที่มั่นสำรอง และที่มั่นเพิ่มเติม เป็นต้น
๓) หมวดปืนเล็ก ปรับปรุงที่มั่นตั้งรับอย่างต่อเนื่อง
ง. การค้นหาที่ตั้งข้าศึก หมวดปืนเล็กจัดตั้งและดำรงจุดตรวจการณ์และทำการลาดตระเวนระวังป้องกันตามที่ผู้บังคับกองร้อยกำหนด การค้นหาที่ตั้งข้าศึกทำได้โดยการลาดตระเวน การตรวจการณ์ การเห็นและการได้ยินของทหารเป็นบุคคล ด้วยการใช้เครื่องมือเฝ้าตรวจเวลากลางคืน กล้องส่องสองตาและเชลยศึก เพื่อตรวจจับการเข้ามาของข้าศึก
จ. การปฏิบัติเมื่อปะทะข้าศึก ทันทีที่ค้นพบข้าศึก ผู้บังคับหมวดควรปฏิบัติดังนี้
- แจ้งเตือนผู้บังคับหมู่ รองผู้บังคับหมวด และผู้ตรวจการณ์หน้าที่มาประจำอยู่ด้วย ให้พร้อมปฏิบัติ
- รายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับกองร้อยทราบ
- เรียกกำลังพลที่ประจำที่ตรวจการณ์กลับเข้าที่มั่น แต่ผู้บังคับหมู่หรือผู้บังคับหมวดอาจตัดสินใจให้กำลังพลประจำอยู่ ณ ที่ตรวจการณ์ต่อไป หากยังคงสามารถยิงทางปีกอย่างมีประสิทธิภาพ และที่ตั้งที่ตรวจการณ์สามารถให้การกำบัง – ซ่อนพรางได้ และที่สำคัญคือ หากเรียกกำลังพลกลับเข้าที่มั่น จะเป็นการเปิดเผยให้ข้าศึกรู้แนวที่มั่นตั้งรับของฝ่ายเรา
- ร้องขอและปรับการยิงอาวุธยิงเล็งจำลอง เมื่อข้าศึกเข้ามาอยู่ในระยะที่สามารถทำการยิงทำลายได้สูงสุด
- เริ่มทำการยิงอาวุธยิงเล็งตรง ตั้งแต่ระยะไกล ในเขตของหมวดตามคำสั่งของผู้บังคับกองร้อย
- กำลังพลทุกส่วนกลับเข้าประจำที่มั่นตั้งรับของตน และพร้อมรับคำสั่งจากผู้บังคับหมวดต่อไป
ฉ. การดำเนินการตั้งรับ ผู้บังคับหมวดพิจารณาว่าจะสามารถทำลายกำลังข้าศึกจากที่มั่นตั้งรับปัจจุบันได้หรือไม่
๑) หากคำตอบคือ “ ได้ ” หมวดปืนเล็กจะทำการสู้รบต่อไป
- ผู้บังคับหมวดหรือผู้ตรวจการณ์หน้า ยังคงร้องขอและปรับการยิงอาวุธยิงเล็งจำลองต่อไปในขณะที่ข้าศึกเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา หมวดปืนเล็กจะเปิดฉากการยิงเล็งตรงต่อเมื่อข้าศึกเข้ามาอยู่ในระยะยิงหวังผลสูงสุด โดยเปิดฉากการยิงและรวมอำนาจการยิงในเวลาเดียวกันเพื่อจู่โจมต่อข้าศึก อาวุธที่มีระยะยิงไกลจะวางแผนการยิงร่วมกับเครื่องกีดขวาง เพื่อทำลายรูปขบวนการเคลื่อนที่ หน่วงเหนี่ยวการเคลื่อนที่ ( channelize ) ของข้าศึกเข้าสู่พื้นที่เตรียมทำลาย ( engagement area ) ป้องกันหรือจำกัดขีดความสามารถของข้าศึกในการตรวจการณ์ต่อที่ตั้งหน่วยทหารฝ่ายเราให้เหลือน้อยที่สุด และยิงทำลายเมื่อข้าศึกพยายามจะทำการเจาะผ่านเครื่องกีดขวางทางยุทธวิธีของฝ่ายเรา
ข) ผู้บังคับหน่วยต่าง ๆ ควบคุมการยิงของหน่วยด้วยคำสั่งยิงมาตรฐาน พลุสัญญาณและสัญญาณต่าง ๆ ที่กำหนดไว้แล้วล่วงหน้า หมวดปืนเล็กเพิ่มความรุนแรงของอำนาจการยิงโดยการเพิ่มอาวุธอื่นร่วมทำการยิง เมื่อข้าศึกเข้ามาอยู่ในระยะยิงของอาวุธเหล่านั่น ผู้บังคับหมู่จะสามารถรักษาอัตราการยิงภายในหมู่ให้ต่อเนื่องได้โดยการจัดทหารเป็นทีมคู่ ( buddy team ) เพื่อผลัดเปลี่ยนกันยิงในขณะที่คนใดคนหนึ่งจำเป็นต้องหยุดยิง เช่น ขณะเปลี่ยนซองกระสุน เป็นต้น
ค) ในการวางอำนาจการยิงและควบคุมการยิง ผู้บังคับหมวดและผู้บังคับหมู่ควรพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
- ระยะจากอาวุธถึงข้าศึก
- ลำดับความสำคัญของเป้าหมาย (จะยิงอะไร ยิงเมื่อไหร่ และยิงทำไม)
- เป้าหมายที่อยู่ใกล้ที่สุดหรือที่อันตรายที่สุด
- การย้ายการยิง ( shift fire ) เพื่อรวมอำนาจการยิงบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ตามความริเริ่มของหน่วยเอง หรือตามคำสั่งของหน่วยเหนือ
- ขีดความสามารถของหมวดในการยิงต่อทหารราบยานเกราะที่ลงรบเดินดินด้วยการยิงกวาด
- ขีดความสามารถของหมวดในการใช้อาวุธต่อสู้รถถังทางปีก เพื่อทำลายยานรบข้าศึก
ง) เมื่อข้าศึกเข้ามาใกล้แนวลวดหนามป้องกันตน ผู้บังคับหมวดจะเริ่มการยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย ( final protective fire – FPF ) การปฏิบัติต่าง ๆ จะเกิดขึ้นพร้อมกันดังนี้
- ปืนกล และอาวุธอัตโนมัติทำการยิงในแนวทิศทางยิงหลัก (principle direction of fire – PDF ) หรือยิงในแนวป้องกันขั้นสุดท้าย ( final protective line – FPL) ตามที่กำหนดแนวไว้และวางแผนการยิงไว้แล้ว อาวุธอื่น ๆ ทำการยิงในแนวทิศทางยิงหลักที่กำหนดไว้ เครื่องยิงลูกระเบิด M.203 ยิงข้าศึกบริเวณพื้นที่อับกระสุน และข้าศึกที่กำลังพยายามเจาะผ่านแนวลวดหนามป้องกันตน
- ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเคลย์โม และลูกระเบิดขว้าง
- ร้องขอการยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้ายด้วยอาวุธยิงเล็งจำลอง หากหน่วยเหนือวางแผนไว้ให้
จ) หมวดปืนเล็กดำเนินการตั้งรับต่อไปจนกว่าจะผลักดันข้าศึกได้ หรือจนกว่าจะได้รับคำสั่งให้ผละจากการรบ
๒) หากคำตอบคือ “ ไม่ได้ ” ผู้บังคับหมวดปฏิบัติดังนี้
- รายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับกองร้อยทราบ
ข) ทำการยิงต่อไป หรือเปลี่ยนย้ายที่มั่นของหมวด (หรือหมู่ใดหมู่หนึ่ง/หลายหมู่ภายในหมวด ทั้งนี้ตามคำสั่งของผู้บังคับกองร้อยเท่านั้น เพื่อ
- ทำการยิงภายในที่มั่นของหมวด (พื้นที่เตรียมทำลาย : engagement area)
- เข้าประจำที่มั่นเพิ่มเติม
- เพิ่มเติมกำลังให้กับส่วนอื่นของกองร้อย
- ตีโต้ตอบเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งเพื่อแย่งยึดที่มั่นคืน
- ผละออกจากที่มั่นซึ่งไม่สามารถตั้งรับต่อไปได้ ด้วยการยิงประกอบการเคลื่อนที่ผละออกจากข้าศึก (ผู้บังคับหมวดจะไม่ผละออกจากที่มั่น หากพิจารณาเห็นว่าจะทำให้สูญเสียความเป็นปึกแผ่นของกองร้อย การเปลี่ยนย้ายที่มั่นของหมวดหรือหมู่ จะต้องมีการซักซ้อมการปฏิบัติอย่างละเอียด)
หมายเหตุ : ในการเคลื่อนที่ผละออกจากที่มั่นตั้งรับ หมวดปืนเล็กต้องใช้อำนาจการยิงทั้งสิ้นที่มีอยู่ ทั้งเล็งตรงและเล็งจำลองทำการยิงกดข้าศึกไว้ให้ได้นานพอที่จะให้หมวดปืนเล็กเคลื่อนที่ออกจากที่มั่นได้ทั้งหมด
ฉ) การเสริมความมั่นคงและจัดระเบียบใหม่
๑) หมวดปืนเล็ก
- จัดส่วนระวังป้องกันขึ้นใหม่
- จัดพลประจำอาวุธที่สำคัญ
- ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ และเตรียมส่งกลับสายแพทย์
- ซ่อมเครื่องกีดขวางที่ชำรุดและวางทุ่นระเบิดเคลย์โม รวมทั้งลวดสะดุดต่าง ๆ ทดแทน
- เฉลี่ยและแจกจ่ายกระสุน และสิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ
- เปลี่ยนที่ตั้งยิงอาวุธสำคัญที่คาดว่าข้าศึกทราบที่ตั้งแล้ว ระหว่างเข้าตี และปรับเปลี่ยนที่มั่นตั้งรับ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้
- จัดตั้งข่ายการติดต่อสื่อสารขึ้นใหม่
- เข้าประจำที่มั่นตั้งรับ ปรับปรุงหลุมบุคคล และเตรียมการตั้งรับต่อไป
๒) ผู้บังคับหมู่และหัวหน้าชุดยิง รายงานสถานภาพกระสุน ผู้บาดเจ็บ และเครื่องมือเครื่องใช้ให้ผู้บังคับหมวดทราบ
๓) ผู้บังคับหมวด
- สถาปนาสายการบังคับบัญชาขึ้นใหม่
- ดำเนินการเรื่องกระสุน ผู้บาดเจ็บ และเครื่องมือเครื่องใช้แก่หมู่ปืนเล็ก และรายงานสถานภาพให้ผู้บังคับกองร้อยทราบ
๔) รองผู้บังคับหมวด ประสานงานการส่งกำลังเพิ่มเติม และกำกับดูแลการปฏิบัติต่อผู้บาดเจ็บ และเชลยศึกให้เป็นไปตามแผน
๕) หมวดปืนเล็กปรับปรุงที่มั่นตั้งรับต่อไป รีบจัดตั้งที่ตรวจการณ์ ที่ฟังการณ์ และลาดตระเวนตามแผน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น